1 year ago / Admin
สวัสดีครับ หากว่ายังจำกันได้ ผมเคยได้เขียนบทความเกี่ยวกับ การใช้ EA และ AI ช่วยในการเทรด Forex กันไปแล้ว ทั้งยังเคยรีวิวงานสัมมนา Forex ที่มีหัวข้อเกี่ยวกับการใช้ EA ไปเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหลายๆท่าน ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ EA และ AI โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยเทรด Forex มาก่อน มีอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันครับ
ความเข้าใจผิดแรก ที่หลายคนมักจะเป็นกัน ก็คือความคิดที่ว่า หากใช้ EA เทรด Forex แล้ว เราก็สามารถปล่อยให้โปรแกรมทำงานได้ โดยไม่จำเป็นต้องมาดูจอเลยสักครั้ง นั่นเป็นความคิดที่อาจจะไม่ดีนักครับ เพราะต่อให้เจ้าของ EA จะมีการโฆษณา ไวว่าเอสของเขาฉลาดและสามารถเทรดได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยฝีมือของมนุษย์ แต่ทางที่ดี คุณก็ควรจะทำงานร่วมกับEA ด้วยการตั้งค่ามัน และดูจอเพื่อติดตามผลบ้างเป็นครั้งคราวครับ
อย่างที่ผมกล่าวไปในข้างต้นครับว่า ต่อให้เจ้าของEA และ AI นั้นๆ จะโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาดีเลิศขนาดไหน โปรแกรมมีความฉลาดมากเพียงใดก็ตาม แต่ EA และ AI ก็ไม่ใช่พระเจ้าที่สามารถล่วงรู้อนาคตได้ครับ หลักการทำงานของมัน เกิดจากการเก็บสะสมตัวเลขสถิติ เพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น มันไม่ได้ทำให้สามารถพยากรณ์หรือคาดเดาแนวโน้มตลาดได้ 100%
เพราะในความเป็นจริง สิ่งที่ทำให้กราฟของค่าเงินต่างๆขยับ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัจจัยด้านตัวเลข แต่ยังมีเหตุผลแวดล้อมอื่นๆ เช่นข่าวด่วนที่อาจจะมาโดยไม่ทันตั้งตัว ที่วิ่งมาชนทำให้กราฟนั้นผกผัน และวิ่งอย่างรุนแรงในเวลาสั้นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทั้งEA และ AI ไม่สามารถทำการคำนวณหรือรู้เรื่องหน้าได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่คุณจะสามารถเทรดเสีย แม้ว่าจะใช้ EA หรือ AI ก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ หากว่าคุณเกิดใช้งาน EA และ AI แล้วเกิดการเทรดเสียขึ้นมา คุณก็ไม่สามารถ ไปเรียกร้องเอาอะไรจากคนขาย EA หรือ AI ได้ครับ เพราะทุกๆการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง เช่นเดียวกับการเทรด Forex โดยใช้ EA หรือ AI เพียงแต่ว่าหากคุณใช้เครื่องมือในการช่วย ความเสี่ยงก็จะลดลงเท่านั้นเอง แต่มันไม่ได้หายไปครับ
และนี่ก็สิ่งที่ผู้คนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ EA และ Ai ในการเทรด Forex ก็อย่างเช่นที่ผมได้บอกไปในข้างต้นครับว่า โปรแกรมเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า ดังนั้นจึงไม่สามารถล่วงรู้อนาคตได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะใช้มันก็ตาม แต่ทางที่ดีก็ควรจะติดตามและมองกราฟเป็นระยะๆประกอบกันไปด้วย ถ้าหากมี EA หรือ AI ที่เทรดได้ 100% จริงๆล่ะก็ โลกนี้ก็ไม่มีคนเสียกันแล้วครับ หรือไม่แน่ คนที่คิด EA หรือ AI ที่ใช้งานได้ดีขนาดนี้ได้ ก็คงจะเก็บไว้ใช้เองเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม1 year ago / Admin
ข้อดีข้อเสียการเทรดด้วย Robot หรือ A.I.
กระทู้สนทนา
หุ้น
การลงทุนในหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลกช่วงนี้แสนสาหัส เพราะตกอยู่ในอาการ “เหวี่ยง” จนนักลงทุนตะลึง เพราะเหวี่ยงวีนตามอารมณ์ของดัชนีดาวโจนส์ ที่ผันผวนอย่างหนักหน่วง สาเหตุของอาการดังกล่าว นอกจากเกิดมาจากปมปัญหาการปรับตัวขึ้นมามากของหลายๆตลาดหุ้น และยังเกิดจากคำสั่งซื้อขายระบบ Robot และระบบะ A.I. (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ อีกด้วย
สำหรับระบบการซื้อขายด้วย Robot และระบบะ A.I. ต้องยอมรับว่า เป็นระบบที่เป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีในยุคสมัยนี้ ซึ่งคนรุ่นใหม่ และนักลงทุนที่ชอบทดลองของใหม่เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเทรนด์
ทั้งนี้ระบบ Robot จะสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติตามคำสั่งที่ผู้คุมระบบป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ส่วน A.I. (Artificial Intelligence) หรือที่เรียกกันว่า ปัญญาประดิษฐ์ เกิดจากการสร้างโดยมนุษย์ ที่มีความต้องการจะทำให้หุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมา มีความฉลาดคิดและสามารถวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผล และแม่นยำ ให้ได้เหมือนสมองคน
ดังนั้นการซื้อขายหุ้นปัจจุบัน จึงมีบริษัทหลักทรัพย์หลายราย ที่ให้บริการซื้อขายด้วยระบบ ซึ่งระบบดังกล่าว จะสามารถทำหน้าที่แทนคน ทั้งการตัดสินใจลงทุนและการซื้อขายหุ้นอย่างไรก็ตาม แม้ Robot หรือ A.I. จะเป็นที่นิยมของนักลงทุนในปัจจุบัน แต่ก็ย่อมมีข้อดีข้อเสีย ที่นักลงทุนควรระมัดระวัง ทั้งนี้ คุณพรทิพย์ กองชุน by krungsriguru จึงมีข้อแนะนำดีๆ มาบอกผ่าน bizbug.co ให้นักลงทุนพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้บริการ
ข้อดีการเทรดด้วย Robot หรือ A.I.
1. Robot หรือ A.I. ไร้อารมณ์
จึงทำให้มีความโดดเด่นด้าน “ความคงที่ของการตัดสินใจ” เพราะไม่มีความรู้สึก จึงทนต่อแรงกดดันจากภาวะต่างๆ ได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อคิดและตัดสินใจ ต่างจากคนหากวันไหนใจไม่นิ่ง ความสามารถการเทรดหุ้นจะลดลง ดังนั้นนักลงทุนที่อ่อนไหวกับการเทรดจึงมักกอดหุ้นที่ขาดทุนโดยหวังว่าจะขึ้นในอนาคต และพอได้กำไรก็รีบขายไม่เก็บไว้ ซึ่งต่างกับหุ่นยนต์ที่ซื้อขายตามโปรแกรมที่กำหนดเท่านั้น
2. Robot ไม่ขี้เกียจ ทำงานตามคำสั่งอย่างมีวินัย
โดยทำงานตามกลยุทธ์การลงทุน เงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดขึ้นแล้ว จะทำงานโดยอัตโนมัติไม่มีอิดออดแม้ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงผันผวนก็ตาม หุ่นยนต์จะไม่มีวันเหลวไหล เพราะมันถูกป้อนคำสั่งให้ทำหน้าที่นั้นแล้ว เวลาได้กำไรก็จะไม่หลงระเริง เวลาตัดขาดทุนจะไม่มีอาการเสียดาย เวลาขายหมูก็จะไม่มานั่งคร่ำครวญเสียใจ
3. สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
โดยส่วนใหญ่แล้วโปรแกรมจะนำข้อมูลย้อนหลังมาทำการพิสูจน์ไอเดียหรือกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย และนำไปออกแบบระบบเพื่อให้ทำงานได้อย่างอัตโนมัติ การนำข้อมูลมาพิสูจน์ย้อนหลังนั้น ช่วยให้เห็นภาพว่าผลตอบแทนและความเสี่ยงเป็นอย่างไร หากใช้กลยุทธ์แบบนี้แล้ว ความเป็นไปได้ที่จะได้กำไรนั้นมีมากน้อยแค่ไหน
4. Robot จะตัดสินใจและส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นเข้าไปในระบบอัตโนมัติ
จึงทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มนุษย์ไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอให้เสียเวลา หรือต้องส่งคำสั่งซื้อขายเองด้วยมือ เพราะบางครั้งก็ส่งคำสั่งผิดๆ ถูกๆ หลายคนจะสั่งขายแต่ไปกดซื้อ หรือเอาเวลาไปทำอย่างอื่น เช่น ค้นหากลยุทธ์ในการลงทุนใหม่ๆ
5. หุ่นยนต์สามารถเพิ่มความเร็วในการซื้อขายได้ดีกว่าแน่นอน
เพราะถูกลงคำสั่งไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อเกิดสัญญาณซื้อหรือขายก็จะทำตามคำสั่งทันที ต่างจากคนที่ต้องประมวลการตัดสินใจในสมองก่อน ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีการเทรดความเร็วสูง (High Frequency Trading) พัฒนาไปเร็วมากถึงขั้นส่งคำสั่งได้หลายครั้งในช่วงเวลาแค่กะพริบตา และทำให้สามารถเทรดหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ ได้มากขึ้น บ่อยขึ้น เทรดข้ามตลาดหุ้นหรือแม้แต่เทรดตลอด 24 ชม. ในบางตลาด เช่น FOREX ก็ได้
6. สามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีและเลือกลงทุนได้หลายกลยุทธ์
สามารถเทรดหุ้นได้หลายบัญชี เพื่อกระจายความเสี่ยง ระบบคอมพิวเตอร์สามารถสแกนเพื่อหาโอกาสการลงทุนข้ามตลาดได้ทั่วโลก พร้อมส่งคำสั่งซื้อและเฝ้าสังเกตให้แม้การเทรดด้วยระบบ Robot หรือ A.I. จะมีข้อดีในการตัดสินใจ และนิ่งไม่หวั่นไหวต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ย่อมมีข้อเสียเช่นกัน
ข้อเสียการเทรดด้วย Robot หรือ A.I.
1. ระบบคอมพิวเตอร์อาจล้มเหลวได้
แม้จะบอกว่าการเทรดด้วย Robot ทำให้ผู้ลงทุนมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน แต่การทำงานด้วยระบบอัตโนมัติก็ต้องมีการตรวจสอบและเฝ้าดูอยู่เป็นระยะๆ เพราะอาจเกิดเหตุระบบล้มเหลวได้ เช่น การเชื่อมต่อขัดข้อง เซิร์ฟเวอร์มีปัญหา ส่งผลทำให้การส่งคำสั่งซื้อขาย Error ตกหล่น หรือทำซ้ำได้
2. Robotทำงานตามคำสั่งเป๊ะมาก หรือเถรตรง
ซึ่งในบางครั้งราคาอาจไม่เป็นไปตามทฤษฎีหรืออาจมีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อราคาหุ้น ซึ่งอยู่นอกเหนือการประเมินของหุ่นยนต์ จึงทำงานพลาดพลั้งได้
3. ความปลอดภัยและข้อมูลที่อาจรั่วไหล
กรณีที่มีผู้ล่วงรู้ถึงรูปแบบ ช่วงราคาการซื้อและขายของโปรแกรมอาจซื้อหรือขายหุ้นเพื่อดักทาง จนสร้างความเสียหายแก่ผู้ลงทุนที่ใช้ระบบได้ จึงต้องพัฒนาระบบบนมาตรฐานความปลอดภัย และมีการป้องกันการเจาะข้อมูล และการรั่วไหลของข้อมูล
ดังนั้น ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนผ่านระบบดังกล่าว จึงควรมีความรู้ เข้าใจหลักการลงทุน อีกทั้งควรเข้าใจโปรแกรมหรือกลยุทธ์การลงทุนด้วยหุ่นยนต์ อย่างไรก็ตามหากเลือกที่จะลงทุนในแนวนี้ และที่สำคัญคุณต้องเชื่อใจมัน ปล่อยให้ระบบโชว์ความสามารถแสดงผลงาน คุณต้องไม่แทรกแซงขณะที่โปรแกรมทำงาน เพราะนั่นจะเป็นการทำลายกระบวนการทั้งหมดที่ได้สร้างไว้แล้ว อาจส่งผลให้คุณขาดทุนมากกว่าเดิมก็ได้
อ่านเพิ่มเติม
